ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

หนังยาง...ยืดชีวิตพิชิตโรค

ช่วยกระตุ้นระบบประสาท พัฒนาการรับรู้ของกล้ามเนื้อ
          พักนี้ใคร ๆ ก็เข้าฟิตเนสที่มีเครื่องไม้เครื่องมือครบครันเพื่อสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องดี แต่สำหรับคนที่ ” มันนี่ ” ไม่เอื้อ ก็ยังมีวิธีการออกกำลังกายอื่น ๆ ซึ่งสะดวก สบาย แถมไม่แพง (เข้ากระแสพอเพียงอีกต่างหาก) มาแนะนำ“ยางยืด” นี่แหละ                       
          ยางยืดที่เราคุ้นชิน และหลายคนเคยเอามาร้อยคนยาวเอาไว้เล่นโดดหนังยางตอนเด็ก ๆ หรือเอามาเป่าเล่นกับเพื่อนนั้น วันนี้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการเสริมสมรรถภาพร่างกายและกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี จนถึงกับได้รับรางวัลส่งเสริมสุขภาพดีเด่นแห่งชาติจากกระทรวงสาธารณสุขมาแล้ว       
          วิธีนำยางยืดมาใช้เพื่อสุขภาพก็ไม่ยาก แค่ใช้ยางวงขนาดใหญ่จำนวน 5-6 เส้นมาร้อยต่อกันเป็นลักษณะเหมือนข้อโซ่ให้ได้ประมาณ 36-40 ข้อ หรือถ้าเป็นคนรูปร่างสูงก็อาจใช้ถึง 40-45 ข้อ หรือมากกว่าตามรูปร่าง      
          คุณสมบัติของยางยืดคือจะมีปฏิกิริยาสะท้อนลับหรือมีแรงดึงกลับจากการถูกดึงให้ยืดออก ที่เรียกว่าสเทรทช์รีเฟล็กซ์ (Stretch Reflex) ทุกครั้งที่ยางถูกดึงให้ยืดจึงช่วยกระตุ้นระบบประสาทรับรู้ความรู้สึกของกล้ามเนื้อ เป็นผลดีต่อการพัฒนาและบำบัดรักษาระบบการทำงานของประสาทกล้ามเนื้อ และช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของระบบประสาทกล้ามเนื้อ เอ็นกล้ามเนื้อ รวมทั้งข้อต่อกระดูก นอกจากนั้นยังช่วยเสริมสร้างความอดทนของกล้ามเนื้อในหลายรูปแบบ ลดไขมัน ทำให้กล้ามเนื้อมีความตึงตัว กระชับสัดส่วน
           ที่สำคัญการออกกำลังกายประเภทนี้จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสะสมแคลเซียมไว้ในกระดูกทำให้กระดูกมีความหนาแน่น ป้องกันปัญหากระดูกบาง กระดูกพรุน ข้อติด ข้อเสื่อม และระบบโครงสร้างร่างกาย
          การออกกำลังกายด้วยยางยืดทำได้หลายท่าและสามารถออกได้ในเกือบทุกสัดส่วน ไม่ว่ากล้ามเนื้ออก ไหล่ หลัง ต้นแขน ลำตัว หน้าท้อง ขาด้านหน้า ด้านหลัง ฯลฯ แต่อาจจะต้องใช้เวลาฝึกบ้างเพื่อให้คุ้นเคย จนสามารถออกกำลังได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
          วิธีการออกกำลังกายด้วยยางยืดนั้น หากต้องการออกเพื่อบริหารกล้ามเนื้อสะโพกและต้นขาด้านหน้าก็ให้ยืดแขนเหยียดตรงข้างลำตัว ใช้เท้าเหยียบยางไว้ มือทั้งสองจับที่ปลายเส้นแต่ละข้าง งอสะโพก งอเข่า แล้วย่อตัวลงจนกระทั่งต้นขาเกือบขนานหรือขนานกับพื้น หลังเหยียดตรง มองตรงไปข้างหน้า จากนั้นเหยียดสะโพก เหยียดเข่ากลับเข้าสู่ท่ายืนตรง 
ข้อควรระวังในท่านี้คือขณะงอเข่าและย่อตัวลงหลังต้องไม่งอ และเข่าที่งอจะต้องไม่เลยปลายเท้า          
          การออกกำลังกายวิธีนี้ไม่ใช่แค่มาดึง ๆ ยางเท่านั้น แต่ต้องรู้ว่าจะออกกำลังส่วนใด ใช้แรงอย่างไร นั่นคือต้องแนบแขนชิดลำตัวเมื่อต้องการออกกำลังกายส่วนแขน หลังต้องไม่งอเมื่อออกกำลังกายส่วนเอวเป็นต้น          
          เมื่อรู้เคล็ดลับแล้วก็ไม่ยากที่จะออกกำลังกาย อีกทั้งยังสามารถเพิ่มแรงต้านโดยใช้วิธีการร่นยาง นั่นคือในการออกกำลังกายสะโพก หากอยากได้แรงมากขึ้นก็เพียงแต่เหยียบยางไว้ให้มาก เพื่อให้สายสั้นลง หรือหากต้องการแรงผลักให้มากขึ้นในการออกกำลังกายก็สามารถเพิ่มจำนวนยางมากกว่าปกติได้ โดยเพิ่มที่ข้อที่ 13 หรือ 15 และข้อที่ 23-25          
          ขณะเดียวกันก็แนะนำให้สอดยางไว้ระหว่างข้อดังกล่าวอีก 1 ชุด โดยใช้เส้นยางจำนวนที่เท่ากัน เส้นยางที่สอดระหว่างข้อนี้มีไว้สำหรับคล้องรัดข้อเท้าหรือคล้องกับที่ยึดเกาะ เช่น ขาโต๊ะ ขาเก้าอี้ ขณะออกกำลังกายในบางท่า และควรหาวัสดุเหลือใช้ เช่น ท่อพีวีซีมาดัดแปลงสอดตรงปลายยางเพื่อใช้เป็นที่จับเพิ่มความสะดวก     
          ง่าย ๆ และประหยัด ๆ อย่างนี้ แต่ก็เป็นวิธีที่ทำให้แข็งแรงได้เหมือนกัน

วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ประเพณีัฮารีรายอ

ประเพณีฮารีรายอ  เทศกาล ฮารีรายอมีอยู่สองวันคือ
                    ๑. วันฮารีรายอ หรือวันอิฎิลฟิตรี เป็นวันรื่นเริง เนื่องจากสิ้นสุดการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน เป็นการกลับเข้าสู่สภาพเดิม ตรงกับวันที่หนึ่งของเดือนเซาวาล ซึ่งเป็นเดือนที่สิบทางจันทรคติ
            การปฎิบัติของชาวอิสลามในวันรายอจะบริจาคทานเรียกว่า ซากัดฟิตเราะห์ (การบริจาคข้าวสาร) มีการบริจาคทานแก่คนแก่หรือคนยากจน บางทีจึงเรียกว่า วันรายอฟิตเราะห์ หลังจากนั้นจะไปละมาดที่มัสยิด จากนั้นจะมีการขอขมาจากเพื่อน มีการเยี่ยมเยียนญาติพี่น้องที่อยู่ใกล้และไกลออกไป มีการเลี้ยงอาหารด้วย
                    ๒. วันฮารีรายอหัวญี หรือวันรายออิฎิลอัฎฮา  คำว่า อัฎฮา แปลว่า การเชือดพลี เป็นการเชือดสัตว์เพื่อเป็นอาหารแก่ประชาชนและคนยากจน อิดัลอัดฮา จึงหมายถึงวันรื่นเริงเนื่องในวันเชือดสัตว์พลี ตรงกับวันที่สิบของเดือนซุลฮจญะ เป็นเวลาเดียวกับการประกอบพิธีหัจญ์ ที่เมืองเมกกะของชาวอิสลามทั่วโลก ชาวไทยอิสลามจึงนิยมเรียกวันตรุษนี้ว่า วันอีดใหญ่
            การปฎิบัติจะมีการละหมาดร่วมกันและเชือดสัตว์เช่น วัว แพะ แกะ แล้วแจกจ่ายเนื้อสัตว์เหล่านั้นแก่คนยากจน การเชือดสัตว์พลีนี้เรียกว่า กรุบาน
            การปฎิบัติตนในวันนี้ คือ
                ๑. อาบน้ำสุหนัด ทั้งชายและหญิง และเด็กที่สามารถไปละหมาดได้ เวลาดีที่สุดคือหลังจากแสงอรุณขึ้นของวัน ฮารีรายอ
                ๒. แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สะอาดสวยงาม
                ๓. บริจาคซะกาดฟิตเราะห์ก่อนละหมาด อิฎิลฟิตรี
                ๔. ให้ทุกคนไปละหมาดรวมกันกลางแจ้งหรือที่มัสยิด และฟังการบรรยายธรรมหลังละหมาด
                ๕. การกล่าวสรรเสริญ อัลเลาะห์
                ๖. ทำกรุบาน ถ้ามีความสามารถด้านการเงิน
                ๗. เยี่ยมเยียน พ่อแม่ ญาติ และครูอาจารย์ เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับขออภัยซึ่งกันและกันในความผิดพลาด ที่อาจเกิดขึ้นทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว

สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดนราธิวาส


ทักษิณราชตำหนัก ชนรักศาสนา นราทัศน์เพลินตา ปาโจตรึงใจ แหล่งใหญ่แร่ทอง ลองกองหอมหวาน


ข้อมูลทั่วไป - น้ำตกปาโจ - น้ำตกปาโจ

      ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ตั้งอยู่บริเวณบ้านปาโจ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ของผืนป่าบูโดที่มีน้ำไหลตลอดปี มีน้ำตก 4 ชั้น ชั้นแรกมีขนาดใหญ่และสวยที่สุด สายน้ำไหลตกจากลานผาหินกว้าง สูงประมาณ 60 เมตร ลงสู่แอ่งน้ำใหญ่ ในช่วงฤดูฝนน้ำตกปาโจจะยิ่งงดงามตระการตาด้วยปริมาณน้ำมหาศาล สภาพป่าบริเวณนี้เป็นป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้หลายชนิด เช่น กะลอ หลุมพอ ฯลฯ ตามพื้นป่ามีหวาย ปาล์ม หลากหลายชนิด สัตว์ที่พบเห็นง่ายได้แก่ ค่างแว่นถิ่นใต้ นกกาฝากท้องสีส้ม เป็นต้

ประวัติของฉัน

นางสาวซูวัยบัส  บินเจ๊ะอารง
รหัส 52102311007
ห้อง 1 รุ่น 1
หลักสูตรประกาศณียบัตร สาขาวิชาชีพครู
สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตยะลา